Botox injections ⋮ ฉีดโบท็อกลดกราม Botox แท้กับปลอมต่างกันอย่างไร?

Botox injections ฉีดโบท็อกลดกราม Botox แท้กับปลอมต่างกันอย่างไร?

ฉีดโบท็อกลดกรามหน้าเรียว

Botox injections ฉีดโบท็อกลดกราม การปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนนั้น แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้วิธีการฉีดโบท็อก เพราะเป็นหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยหนึ่งในบริเวณใบหน้าที่มักจะถูกปรับแก้เป็นอันดับต้นๆ คือ โบท็อกลดกราม ซึ่งสามารถช่วยให้กรามเล็กลง ใบหน้าเรียวขึ้นได้ อย่างเป็นกธรรมชาติ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องเลือกฉีดกับแพทย์ผู้มีประสบการณ์สูงและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากนั้นยังต้องฉีดด้วย Botox แท้ เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น อักเสบ ติดเชื้อ หนังตาตก หน้าเบี้ยว มุมปากตก แก้มห้อย รวมถึงเสี่ยงเกิดอาการดื้อโบท็อกได้มากขึ้นอีกด้วย เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ฉีดโบท็อกลดกราม ดีไหม? โบท็อกหน้าเรียว เห็นผลจริงหรือไม่? ข้อควรรู้ก่อนฉีดโบท็อกซ์? ในบทความนี้จึงรวบรวมรายละเอียดของ โบท็อกลดกรามหน้าเรียว เอาไว้ค่ะ 

Botox injections ฉีดโบท็อกลดกรามหน้าเรียว

โบท็อกกราม ช่วยอะไร ?

การฉีดโบท็อกลดกราม สามารถช่วยในเรื่องของการปรับรูปหน้าเรียวสวย กรามเล็กลง ใบหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น โดยโบท็อกซ์มีคุณสมบัติเด่นในการออกฤทธิ์กับระบบประสาทที่บังคับกล้ามเนื้อ โดยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวลงชั่วคราว จึงทำงานได้น้อยลง ใบหน้าจึงดูเล็กลง หน้าเรียวมีมิติ หากต้องการปรับใบหน้าให้สวยในองค์รวมนอกจากฉีดโบท็อกลดกรามแล้ว ควรฉีดควบคู่กับโบท็อกลิฟกรอบหน้า เพื่อให้ใบหน้าได้สัดส่วน ดูดีขึ้นในทุกมิติ

ฉีดโบท็อก หน้าเรียวจริงไหม ?

การฉีดโบท็อกออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อโดยตรง จึงทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก ยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้ดีและเห็นผลชัดเจน โดยแพทย์จะต้องวิเคราะห์ปัญหา สภาพผิว และความต้องการ ให้เหมาะกับใบหน้าของแต่ละคนมากที่สุด เพราะปัญหาเรื่องของใบหน้าในแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน หากเรื่องของรูปหน้านั้นไม่ได้เกี่ยวกับกล้ามเนื้อเป็นต้นเหตุ เช่น ปัญหาที่ชั้นกระดูกทรุด ปัญหาที่ชั้นไขมัน เป็นต้น การฉีดโบท็อกก็จะไม่ได้ผลตามต้องการ จึงต้องดูแลโดยแพทย์มากประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อให้ได้วิธีการดูแลใบหน้าที่เหมาะสมกับแต่ละรายบุคคลมากที่สุด

อยากหน้าเรียว ต้องทำโบท็อกลดกรามเท่านั้นจริงหรือ ?

ปรับหน้าเรียว มีด้วยกันหลากหลายวิธี การฉีดโบท็อกหน้าเรียว เป็นเพียงหนึ่งในวิธีการเหล่านั้น ซึ่งในแต่ละเคสแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและออกแบบการรักษาให้เฉพาะราย ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน โดยมีหัตถการปรับรูปหน้าที่สามารถทำได้หลักๆ ดังนี้

  • ฉีดโบท็อกลดกราม (Botox injections jaw) ช่วยให้บริเวณกรามดูเล็กลง มี V-Shape
  • การฉีดฟิลเลอร์คาง สามารถช่วยเสริมรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น จากหน้าสั้นให้ดูยาวขึ้น ใครที่มีคางตัด คางบุ๋ม ก็สามารถเติมให้คางเต็มขึ้นได้ ซึ่งเป็นวิธีที่สามารถเห็นผลทันทีหลังทำ (ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล)
  • การร้อยไหมหน้าเรียว เป็นการดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถแก้ปัญหาหน้าหย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น ผิวเรียบเนียน หน้าดูเรียวสวยได้รูป
  • การทำ Ultraformer III เป็นการใช้คลื่นพลังงานส่งตรงเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อ SMAS และสามารถช่วยลดเหนียง สลายไขมันใต้ชั้นผิวได้ จึงช่วยยกกระชับ ปรับหน้าเรียว แก้ปัญหาแก้มห้อย หน้าหย่อนคล้อย เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน

ฉีดโบท็อกลดกราม กับ การร้อยไหมหน้าเรียว อันไหนดี?

ทั้งสองหัตถการสามารถช่วยให้หน้าเรียว ปรับรูปหน้าให้ได้รูป โดยขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้วินิจฉัย โดยโบท็อกนั้นมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว กล้ามเนื้อจึงเล็กลง แต่ร้อยไหมมีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของการยกกระชับ แก้ปัญหาแก้มห้อย ความหย่อนคล้อย จึงต้องเลือกทำตามความเหมาะสม หรือหากเลือกทำควบคู่กันก็สามารทำได้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นไปอีก แต่ต้องให้แพทย์เป็นผู้ออกแบบการรักษาให้เฉพาะราย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและรับกับใบหน้าของแต่ละคนมากที่สุด

ฉีดโบลดกราม เหมาะกับใคร?

เป็นวิธีที่สามารถทำได้ทุกคน โดยเฉพาะคนที่มีปัญหากล้ามเนื้อบริเวณกรามใหญ่ โดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น แต่หากใครที่มีโครงสร้างกระดูกใหญ่จนทำให้กรามและส่วนต่างๆ ของใบหน้า ใหญ่ตามไปด้วย อาจจะต้องใช้วิธีการอื่นในการช่วยปรับรูปหน้าเรียว แทนการฉีดโบท็อกลดกราม สำหรับกลุ่มคนที่ต้องฉีดโบลดกราม มีด้วยกันดังนี้

  • คนที่มีปัญหาหน้าบาน กรามใหญ่เพราะกล้ามเนื้อบริเวณกรามเยอะ
  • คนที่มีปัญหาหน้ากลม อยากได้หน้าเรียว มี V-Shape
  • คนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด
  • คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เหนียงห้อย
  • คนที่อยากลดกรามให้เรียวเล็ก แต่ไม่อยากผ่าตัด

ฉีดโบท็อกกรามเจ็บไหม?

สำหรับบริการฉีดโบท็อกลดกราม จะมีการประคบเย็นทั้งก่อนและระหว่างฉีดเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย สบายผิวมากขึ้น จึงไม่รู้สึกเจ็บ แต่ในรายที่ไวต่อความรู้สึกอาจจะต้องรู้สึกเจ็บจี๊ดได้เล็กน้อย ถ้าหากเป็นคนที่กลัวเข็มมากเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับเข็ม สามารถแจ้งแพทย์ก่อนฉีดเพื่อใช้ยาชาเข้าช่วยได้ค่ะ

ฉีดโบท็อกลดกราม หน้าแข็ง ยิ้มไม่สุด แสดงอารมณ์ไม่ได้ จริงไหม ?

  อีกหนึ่งข้อกังวลใจเกี่ยวกับการฉีดโบท็อก คือเรื่องของปัญหาหน้าแข็ง ยิ้มแล้วเหมือนไม่ยิ้ม แสดงอารมณ์อย่างไรหน้าก็เหมือนเดิมไม่ขยับ หลังฉีดโบท็อกลดกราม ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ค่ะ โดยมีสาเหตุดังนี้

แพทย์ไม่มีประสบการณ์ 

  • ทำให้การวางตำแหน่งฉีดไม่แม่นยำ วางตัวยาได้ไม่ตรงกล้ามเนื้อที่ต้องการแก้ไขปัญหา
  • คำนวนปริมาณยูนิตที่ใช้ไม่เหมาะสม ฉีดเยอะจนทำให้กล้ามเนื้อแข็งมากเกินไป ไม่เป็นธรรมชาติ
  • กล้ามเนื้อใหญ่จึงฉีดเยอะในครั้งเดียว ทำให้เกิดอาการหน้าแข็ง หากแพทย์มีประสบการณ์จะวางแผนการรักษาแบ่วงช่วงฉีดและคำนวนยูนิตได้อย่างเหมาะสม

ใช้โบท็อกปลอม

  • ตัวยาไม่บริสุทธิ์ ไม่ได้มาตรฐาน ตัวยาทำงานได้ไม่เป็นปกติ เกิดการกระจายตัวที่ไม่สม่ำเสมอ จึงอาจไปโดยกับกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการ เกิดอาการหน้าแข็งขึ้นได้ ทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ตามมา

ทำไม ฉีดโบท็อกลดกรามแล้ว เหนียงเยอะขึ้น?

สาเหตุที่ฉีดโบท็อกลดกรามแล้วมีเหนียง สามารถเกิดขึ้นได้จากการที่กล้ามเนื้อกรามลดลงส่งผลให้ผิวเกิดความหย่อนคล้อยลงเพราะไม่มีแรงดึงรั้งจากส่วนบน แต่ในส่วนล่างยังคงมีแรงดึงรั้งเอาไว้ ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยลงมากองกันบริเวณใต้กรามจึงทำให้เห็นเหนียงชัดขึ้น โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยให้เหมาะกับแต่ละเคสมากที่สุด โดยแพทย์จะเลือกใช้เทคนิคที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณคอหรือการฉีดโบลิฟกรอบหน้าร่วมด้วยจะช่วยให้ลดปัญหาการเกิดเหนียง เพิ่มประสิทธภาพของผลลัพธ์ให้มากขึ้น

โบท็อกลดกราม ฉีดง่าย เลือกฉีดกับใครก็ได้?

การฉีดโบท็อกลดกราม หรือทำหัตถการใดๆ ไม่ควรเลือกฉีดกับใครก็ได้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์มากประสบการณ์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น ไม่สามารถฉีดกับพยาบาลได้ เพราะจะทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงตามมา ไม่ว่าจะเป็น หนังตาตก ปากเบี้ยว ยิ้มแข็ง เป็นต้น เพราะไม่ใช่คุณหมอจึงไม่เข้าใจเทคนิคการฉีดโบที่ถูกต้อง คำนวนยูนิตที่ฉีดและวางระยะห่างของการฉีดซ้ำไม่เหมาะสม นอกจากนั้นการฉีดกับหมอกระเป๋าจะทำให้เราได้รับโบท็อกซ์ปลอม จึงอาจทำให้เกิดปัญหาหน้าผิดรูป อักเสบ ติดเชื้อ ทั้งยังเพิ่มโอกาสการดื้อโบท็อกให้มากขึ้นได้อีกด้วย เพราะโบท็อกซ์แท้จะจำหน่ายให้เฉพาะแพทย์ที่มีใบอนุญาตและคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้องตามกฏหมายเท่านั้น

ปากเบี้ยว เพราะฉีดโบท็อกลดกราม เกิดจากอะไร ?

อาการปากเบี้ยวหลังจากฉีดโบลดกรามอาจเกิดขึ้นได้ เพราะตัวยาไปโดนเข้ากับกล้ามเนื้อ ไรโซเรียส (Risorius) หรือ ไซโกมาติก (Zygomatic) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการขยับมุมปาก จึงเกิดอาการปากเบี้ยว มุมปากตก หรือมุมปากทั้งสองข้างไม่เท่ากันขึ้นได้ ปัจจัยมาจากแพทย์ผู้ทำการรักษามีประสบการณ์ที่ไม่เพียงพอ จึงอาจจะวางตำแหน่งการฉีดเคลื่อนไปจากตำแหน่งที่ต้องการรักษา หรือเลือกคุณสมบัติของโบท็อกที่มีการกระจายตัวไม่เท่ากันซึ่งไม่เหมาะกับเคสที่ต้องรักษา จึงทำให้ตัวยามีโอกาสไปโดนกล้ามเนื้อส่วนที่ไม่ต้องการ เกิดเป็นปัญหาปากเบี้ยว มุมปากตก ได้ค่ะ

ฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าตอบ จริงหรือ?

  การฉีดโบลดกรามแล้วเกิดปัญหาหน้าตอบนั้น สามารถเกิดขึ้นได้ สาเหตุมาจากการวางตำแหน่งของโบท็อกซ์คลาดเคลื่อน ฉีดในปริมาณที่มากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ไม่ต้องการแก้ไขเกิดการคลายตัวเล็กลงส่งผลให้โหนกแก้มนูนสูงชัดขึ้น เพราะแพทย์มีประสบการณ์น้อยหรือไม่เชี่ยวชาญทำให้การวางตำแหน่งโบท็อกไม่แม่นยำ รวมถึงเลือกยี่ห้อโบท็อกที่มีการกระจายตัวกว้างมาฉีดในจุดที่ต้องการเน้นในบริเวณแคบ จึงอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา 

ฉีดโบท็อกลดกราม เลือกโบท็อกอเมริกา หรือ โบท็อกเกาหลี ดีกว่ากัน?

ผลลัพธ์ของโบท็อกซ์อเมริกาและโบท็อกเกาหลีนั้นมีความใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น ช่วยลดริ้วรอย ช่วยยกกระชับ แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย เป็นต้น จะต่างกันออกไปในเรื่องของคุณสมบัติ การออกฤทธิ์ของตัวยา รวมถึงระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ไม่เท่ากัน แพทย์จะเป็นผู้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับแต่ละเคสมากที่สุด เพราะแต่ละเคสมีความต้องการ สภาพผิว โครงสร้างหน้า ปัญหา ความใหญ่ของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ ที่ไม่เหมือนกัน จึงต้องวางแผนการรักษาแบบเฉพาะรายบุคคล โดยมีความแตกต่างระหว่าง โบท็อกอเมริกา และ โบท็อกเกาหลี ดังนี้

โบท็อกอเมริกา มีความบริสุทธิ์สูง ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว แต่มีราคาที่สูงกว่า

โบท็อกเกาหลี มีความบริสุทธิ์สูงแต่น้อยกว่าโบท็อกอเมริกาเล็กน้อย ให้ผลลัพธ์ที่ดีใกล้เคียงกับโบอเมริกา แต่ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่าและมีราคาที่ถูกกว่า

วิธีดูโบท็อกปลอม ดูอย่างไร?

ก่อนที่จะฉีดโบท็อกทุกครั้ง ควรต้องตรวจสอบความถูกต้องของโบท็อกซ์ที่เลือกฉีดให้ครบถ้วนเสียก่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดีตามมา โดยมีวิธีสังเกตโบท็อกซ์แท้ ได้ดังนี้

  • เช็กสภาพบรรจุภัณฑ์ทั้งตัวกล่องและขวดยาต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้ รวมถึงเป็นของใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน
  • ขอดูตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมยา แกะกล่อง รวมถึงผสมโบท็อกซ์ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการสลับตัวยาอื่นมาฉีดให้ 
  • ดู วันเดือนปีที่ผลิตและวันหมดอายุ พร้อมด้วย Lot no. ที่ระบุไว้ ซึ่งสามารถนำไปตรวจเช็กกับทางบริษัทผู้นำเข้าได้ โดยแต่ละยี่ห้อจะมีวิธีการเช็กที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น ตรวจเช็กทางแอปพลิเคชันหรือตรวจเช็กทางทางเว็บไซต์ เป็นต้น

ฉีดโบลดกราม กี่วันเห็นผล ?

ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกรามสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังฉีด และจะเห็นผลเต็มที่ใน 1 – 2 เดือน เพราะความหนาแน่น ความใหญ่ของกล้ามเนื้อแต่ละคนไม่เท่ากัน ผลลัพธ์จึงขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล

โบท็อกลดกราม ต้องฉีดบ่อยไหม? ผลลัพธ์อยู่ได้นานกี่เดือน?

เนื่องจากบริเวณกรามคือส่วนที่มีกล้ามเนื้อเยอะและต้องขยับใช้งานอยู่ตลอด โบท็อกจึงค่อยๆ ออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้ออย่างช้าๆ ทำให้หลังฉีดโบลดกรามจะเริ่มเห็นผลในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ และจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเต็มที่ใน 2 – 3 เดือน ซึ่งผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ประมาณ 4 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำและยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่มีความแตกต่างกันออกไป นอกจากนั้นผลลัพธ์ยังขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วย เพราะแต่ละคนมีกล้ามเนื้อที่ไม่เท่ากัน ระยะเวลาจึงไม่เหมือนกัน การดูแลตัวเองหลังทำจึงสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยาให้ทำงานได้เต็มที่ และยืดอายุของผลลัพธ์ให้อยู่กับเราได้นานมากขึ้น โดยสามารถฉีดซ้ำได้ทุกๆ 5 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยและการวางแผนการรักษาของแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ไม่ให้เกิดขึ้น

ฉีดโบท็อกซ์ลดกราม อันตรายไหม?

การฉีดโบท็อกนั้นไม่อันตราย หากฉีดโดยแพทย์มากประสบการณ์ผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สามารถวิเคราะห์และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล วางตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ คำนวนปริมาณยูนิตที่ใช้ได้ถูกต้อง ฉีดด้วยโบท็อกแท้ ผลลัพธ์จึงออกมาดี ไม่เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการตามมา ลดโอกาสเสี่ยงการเกิดอาการดื้อโบได้อีกด้วย โดยผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดโบท็อก มีดังนี้

  • หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์เพียงพอ อาจทำให้คำนวนปริมาณยูนิตที่จะฉีดไม่ถูกต้อง วางตำแหน่งการฉีดไม่แม่นยำ เว้นระยะความถี่ในการฉีดไม่เหมาะสม นำไปสู่ปัญหา หน้าแข็ง ยิ้มแล้วเหมือนไม่ยิ้ม ดื้อโบท็อก เกิดขึ้นในอนาคตได้
  • ฉีดกับหมอกระเป๋า ด้วยเทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้อง ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ในบริเวณที่ฉีด ลุกลามกลายเป็นแผลใหญ่ได้
  • โบหิ้ว โบปลอม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพ มีโอกาสปนเปื้อนสูง การขนส่งและเก็บรักษาไม่ได้มาตรฐาน เพิ่มโอกาสการเกิดอาการดื้อโบให้มากขึ้นได้อีกด้วย ทั้งยังเป็นการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฏหมาย

รีวิว ฉีดโบท็อกลดกราม ปรับหน้าเรียว

สำหรับใครที่ยังมองภาพไม่ออกว่าฉีดโบท็อกลดกราม แล้วผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง เราจึงได้นำส่วนหนึ่งของรีวิวผลลัพธ์จากคนไข้จริงมารวบรวมไว้ในบทความนี้ โดยจะสังเกตเห็นได้ชัดว่าก่อนฉีดว่าหน้าจะดูบาน กรามจะมีขนาดใหญ่ หน้าดูเหลี่ยม แต่หลังฉีดโบท็อกลดกรามจนเริ่มเข้าที่แล้วจะเห็นได้ชัดเลยว่ากรามดูเล็กลง หน้าดูเรียวขึ้น ผิวกระชับ ไม่หย่อนคล้อย

เลือกฉีดโบท็อกลดกราม ที่ไหนดี?

ก่อนที่จะเลือกฉีดโบลดกราม ต้องศีกษาข้อมูลรายละเอียดให้มากและรอบด้าน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ปลอดภัย โดยสามารถเลือกได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้

  • คลินิกได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง สถานที่สะอาด มีการจัดสรรพื้นที่ไว้อย่างเป็นสัดส่วน
  • แพทย์ผู้รักษา ต้องเป็นแพทย์มากประสบการณ์ เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และเป็นแพทย์จริงที่มีใบรับรองสามารถตรวจสอบได้
  • โบท็อกซ์แท้ สภาพพร้อมใช้งาน มีเลข Lot No. กำกับไว้ ระบุวันที่ผลิตและวันหมดอายุไว้อบ่างชัดเจน สามารถตรวจสอบกับบริษัทผู้นำเข้าได้ โดยผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือแพลตฟอร์มของแต่ละยี่ห้อ
  • ดูแลโดยพนักงานมืออาชีพ สามารถให้คำปรึกษา แนะนำ และติดตามผลอย่างใกล้ชิด
  • ต้องมีรีวิวผลลัพธ์จากผู้ใช้บริการจริง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจสามารถที่จะได้เห็นผลลัพธ์ของจริงก่อนที่จะเลือกฉีดโบท็อกลดกราม

ข้อควรรู้ก่อนฉีด โบท็อกลดกราม

นอกจากต้องเลือกแพทย์และคลินิกที่จะฉีดให้ดีแล้ว การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกลดกรามจะสามารถช่วยให้ระหว่างการรักษาไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ รวมถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดก็จะเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยยืดผลลัพธ์ให้คงอยู่ได้นานขึ้น โดยมีรายละเอียดขั้นตอนดังนี้

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนฉีดโบลดกราม
  • งดยา อาหารเสริม หรือวิตามิน ที่มีผลกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพราะมีโอกาสทำให้เกิดอาการช้ำขึ้นได้ง่าย
  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA งดการขัดหรือสครับผิวหน้าก่อนฉีด 1 – 2 วัน ก่อนเข้ามารับบริการ 
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนฉีด
  • หากมียาที่ต้องทานเป็นประจำหรือมีโรคประจำตัว ต้องแจ้งแพทย์ทุกครั้งก่อนฉีด
ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลดกราม
  •  งดนอนราบ นอนคว่ำ หรือนอนตะแคง ในช่วง 3 – 4 ชั่วโมงแรก เพื่อไม่ให้โบท็อกที่ฉีดไหลไปสู่ตำแหน่งที่ไม่ต้องการ
  • ไม่ควรกด นวด ขัด ถู หรือสัมผัสแรงๆ บริเวณที่ฉีดโบ เพราะจะทำให้ตัวยาเคลื่อนไปโดนกล้ามเนื้อตำแหน่งอื่นที่ไม่ต้องการ
  • ในช่วง 1 – 2 ชั่วโมงแรกหลังฉีด ควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดโบท็อกเพื่อให้ตัวยากระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น
  • หลังฉีดอาจมีรอยนูนเกิดขึ้นบนผิวได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และจะหายไปได้เองใน 2 – 3 ชั่วโมง
  • หากมีอาการบวมหรือช้ำสามารถใช้วิธีประคบเย็นเข้าช่วยได้
  • ในช่วง 3 – 5 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการปะทะกับความร้อนโดยตรง ได้แก่ การอยู่หน้าเตาอาหารที่มีความร้อนสูง การเข้าซาวน่า การอบสมุนไพร เป็นต้น 
  • ไม่ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมหนักๆ ในช่วง 1 วันแรกหลังฉีด 
  • งดทำทรีตเมนต์ ใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางค์ ที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ในช่วง 1 วันแรกหลังทำ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ AHA หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิว เป็นต้น

โบท็อกลดกราม เป็นทางเลือกในการดูแลปรับหน้าเรียวที่ได้ผลดี เห็นผลเร็ว โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ช่วยให้ใบหน้ากระชับ กรอบหน้าชัดมีมิติ หากทำอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คงใบหน้าเรียวสวย กระชับ ไว้ได้นานยิ่งขึ้น หากต้องการดูแลใบหน้าและผิวพรรณ สามารถทักเข้ามาปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับ เดอะภู แบงค็อก คลินิก (The Phu Bangkok Clinic) ได้เลยนะคะ