ใบหน้าที่หย่อนคล้อย ผิวเหี่ยวไม่กระชับ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น การใช้ชีวิตที่ต้องอยู่กับความเครียด เผชิญกับมลภาวะต่างๆ ที่เข้ามากระทบกับผิว จึงทำให้หน้าพัง ผิวเสียขึ้นได้ หลายคนจึงมองหาวิธีดูแลตัวเองที่หลากหลาย แตกต่างกันตามความสะดวกของแต่ละคน แต่มีอยู่ 2 วิธี ที่ถูกเลือกใช้ในการดูแลใบหน้า นั่นก็คือ การผ่าตัดดึงหน้า และ การทำ Hifu ยกกระชับผิว และหน้า โดยทั้งสองวิธีนั้นจะมีความแตกต่างอย่างไร? ให้ผลลัพธ์ดีเหมือนกันหรือไม่? ในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างกันไปเลยค่ะ
Hifu ยกกระชับผิว ดีอย่างไร? แตกต่างกับการผ่าตัดดึงหน้าอย่างไร?
ด้วยหลักการทำงานของ Hifu ที่ส่งคลื่นอัลตร้าซาวด์ที่มีพลังงานสูงเปลี่ยนเป็นความร้อนตรงเข้าสู่ผิวชั้นลึก ถึงชั้นผิว SMAS ส่งผลให้เกิดการหดตัวจากชั้นใน ผิวจึงถูกยกกระชับขึ้น หน้าเรียบตึง ลดเลือนริ้วรอย หน้าไม่หย่อนคล้อย ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เพิ่มขึ้น ผิวจึงสุขภาพดี เพิ่มความยืดหยุ่น แก้ปัญหาผิวเหี่ยว เป็นการดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หน้าไม่เกิดแผล กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ หลังทำสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำประมาณ 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ โดยจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ในอีก 2 – 3 เดือน และผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานราว 6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละรายบุคคล
การผ่าตัดดึงหน้า คือ การศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางเข้าไปจัดการชั้นผิวหนังที่เกิดการสะสมของไขมันส่วนเกิน พร้อมทั้งทำการดึงกล้ามเนื้อเพื่อให้เกิดการยกกระชับ ด้วยเทคนิคต่างๆ พร้อมทั้งใช้การเย็บชั้นผิวและกล้ามเนื้อควบคู่ไปด้วย โดยมีอาการบวมช้ำและต้องใช้เวลาพักฟื้นนานประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ และใบหน้กว่าจะเข้าที่อาจจะต้องใช้เวลาราว 1 – 2 เดือนเลยทีเดียว จึงต้องมีเวลาพักฟื้นนานพอสมควร และขั้นตอนการทำก็ใช้เวลานานประมาณ 2 – 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำ และร่างกายของคนไข้แต่ละคน
Hifu ช่วยอะไรบ้าง?
ประโยชน์หลักๆ ของ Hifu คือ ยกกระชับ ปรับรูปหน้า ทั้งยังสามารถช่วยเข้าไปกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ชั้นผิวและอีลาสตินแน่นขึ้น ผึงจึงเรียบเนียน มีความอิ่มฟูเต่งตึง ผิวกระจ่างใสสุขภาพดี นอกจากนั้นริ้วรอยลดเลือนลง และร่องลึกต่างๆ ดูตื้นขึ้น
- แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย แก้มห้อย หน้ายกกระชับ
- ลดเลือนริ้วรอยให้ดูจางลง ผิวตึง หน้าเด้ง ผิวเรียบเนียนขึ้น
- ยกหางคิ้ว ยกหางตา แก้ปัญหาหนังตาตก
- ลดเหนียง เก็บกรอบหน้า ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
Hifu ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง?
สำหรับการกระชับผิวด้วย Hifu นั้น สามารถทำได้หลายตำแหน่งค่ะ นอกจากนั้นคลื่นพลังงานที่สามารถปล่อยลงไปได้ในความลึกของชั้นผิวหลายระดับ และแต่ละจุดที่ทำก็จะส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป
- บริเวณใต้ตา ช่วยลดเลือนริ้วรอยบริเวณใต้ตาให้ดูจางลง กระตุ้นคอลลาเจน ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู
- บริเวณแก้ม ช่วยลดไขมันที่สะสมบริเวณแก้ม แก้ปัญหาแก้มห้อย ปรับหน้าวี เรียวสวยได้รูป หน้ายกกระชับ เก็บกรอบหน้าชัดขึ้น
- บริเวณหน้าผาก ลดรอยยับ ปรับหน้าตึง ยกคิ้ว ยกหางตา แก้ปัญหาหนังตาตก
- บริเวณร่องแก้มและร่องมุมปาก ช่วยให้ร่องลึกต่างๆ ตื้นขึ้น ช่วยยกมุมปาก
- บริเวณคอ ช่วยกระชับผิวคอไม่ให้เหี่ยว ผิวเรียบเนียน เต่งตึง ไม่เป็นรอยพับ
- ลดเหนียง ช่วยจัดการปัญหาคางเป็นชั้น มีเหนียงใต้คาง ทำให้หน้าไม่มีมิติ กรอบหน้าไม่ชัด Hifu จะเข้าไปช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ให้หายไป
เมื่อเปรียบเทียบระหว่างการยกกระชับผิวด้วย Hifu กับ ผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการทำ Hifu มีข้อดีหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของเวลาใมนการทำไม่นาน เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที หน้าไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่มีแผล สามารถกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นได้อีกด้วย ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ในส่วนของการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้านั้น ใช้เวลาทำหลายชั่วโมง หลังทำเกิดอาการบวมช้ำต้องพักฟื้นนานเป็นเดือน กว่าหน้าจะเข้าที่ก็หลายเดือน เจ็บตัวแล้วยังต้องรอนานอีก รวมถึงวิธีการดูแลตัวเองที่ยุ่งยากอีกด้วย ดังนั้น หากต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับผิว ด้วยวิธีง่ายๆ โดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว แนะนำให้เลือกทำ Hifu เลยค่ะ รับรองว่าหน้าปัง สวยเป๊ะ ผิวกระจ่างใส หน้าดูเด็กลง หากต้องการรายละเอียดหรือปรึกษาวิธีการปรับรูปหน้า สามารถทักเข้ามาที่ The Phu Bangkok Clinic ได้เลยค่ะ เพราะที่นี่เราใช้แต่เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เป็นของแท้ ผ่านการรับรองมาตรฐานและคุณภาพจาก อย. จึงมั่นใจในผลลัพธ์ที่ออกมาดี และมีความปลอดภัย