พฤติกรรมเสี่ยงเกิดฝ้า หน้าหมองคล้ำ จุดด่างดำลุกลาม

พฤติกรรมเสี่ยงเกิดฝ้า

พฤติกรรมเสี่ยงเกิดฝ้า คนที่ไม่ได้เคยมีปัญหาผิวมาก่อนอาจจะไม่เข้าใจและคิดว่าปัญหาฝ้าหรือจุดด่างดำเป็นปัญหาใหญ่ ไม่สามารถเกิดขึ้นกันได้ง่ายๆ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความจริง แต่ก็เป็นความจริงแค่เพียงส่วนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่เกิดขึ้นได้ง่าย แต่ถ้าหากปล่อยไว้หรือยังทำพฤติกรรมเสี่ยง ก็สามารถเกิดฝ้าได้เช่นเดียวกัน

พฤติกรรมเสี่ยงเกิดฝ้า

พฤติกรรมเสี่ยงเกิดฝ้า ท้าลุยแดดแบบไม่ป้องกัน

สำหรับสายลุยไม่กลัวแดดต้องระวังไว้ให้ดี  การทำกิจกรรมกลางแจ้งนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่การที่จะออกไปโดนแดดโดยที่ไม่สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันหรือทาครีมกันแดดไว้เลยนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ดีแน่ เมื่อผิวต้องเจอกับแสงแดดแรงๆ ที่มีรังสียูวีแรงจัดด้วยนั้น รับประกันได้ถึงปัญหาผิวที่รอคุณอยู่ตรงหน้าได้เลย ทั้งปัญหาฝ้า กระ หน้าหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอต่อคิวขึ้นแน่นอน

ไม่ทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวัน

หลายคนคงสงสัยว่าทาครีมกันแดดตอนเช้าแล้วยังต้องทาอีกอย่างนั้นเหรอ? ใช่ค่ะ เพราะตามคำแนะนำของแพทย์ผิวหนัง เราควรทาครีมกันแดดระหว่างวันบ้าง หลังจากผ่านไปแล้ว 3 – 4 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อวัน (ยิ่งออกแดดแรงเท่าไหร่ ทาถี่ไว้ยิ่งดี) แม้อยู่ในที่ร่ม ทำงานหน้าคอมก็ต้องทาซ้ำ เพราะว่าแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมก็มีรังสียูวีที่สามารถทำให้เกิดฝ้า และความหมองคล้ำได้เช่นเดียวกัน ถึงจะไม่รุนแรงเท่าโดนแสงแดดตรงๆ ก็ควรที่จะทาป้องกันไว้ดีกว่า อย่างน้อยถ้าไม่เป็นครีมกันแดด ก็เป็นเครื่องสำอางที่มีค่า SPF ที่สามารถกันรังสียูวีก็ได้เหมือนกัน

ทำความสะอาดผิวหน้าไม่สะอาดเพียงพอ

ขั้นตอนที่ทุกคนไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ขั้นตอนการความสะอาดผิวหน้า เนื่องจากเวลาเราออกไปทำธุระหรือไปทำงานมา เพียงก้าวแรกของการออกจากบ้าน เราก็พบเจอกับมลภาวะที่มากระทบกับผิวหน้าแล้ว ทั้งฝุ่น ทั้งควันรถ ไหนจะเครื่องสำอางที่เราแต่งหน้าไว้อีก เรียกได้ว่าสิ่งสกปรกอยู่บนหน้าเรามากมาย ถ้าหากเราไม่ได้ทำความสะอาดให้ดีมากพอ หน้าของเราก็จะสกปรก พอหน้าสกปรก ปัญหาผิวตามมาแน่นอนจ้าาา ที่ไม่ใช่แค่ฝ้า แต่ทั้งสิว ความหมองคล้ำ จุดด่างดำ มาเยือนแน่นอน

มาส์กหน้า/สครับหน้า บ่อยเกินไป

แม้ว่าการมาส์กหน้า/สครับหน้า จะเป็นสิ่งที่ดี ทำให้ผิวหน้าสะอาดมากและได้รับการบำรุงมากขึ้น แต่ควรทำในความถี่ที่เหมาะสม ซึ่งแนะนำอยู่ที่ 2 – 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในการสครับหน้า ส่วนการมาส์กหน้าที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวขาวนั้นก็แนะนำที่ 2 ครั้งต่อสัปดาห์เช่นเดียวกันกับการสครับหน้า เพราะถ้าทำบ่อยจนเกินไปจะทำให้ผิวบางลงนั่นเอง เมื่อผิวบางลง อ่อนลง ก็จะเสี่ยงต่อการเกิดฝ้า เกิดความหมองคล้ำได้ง่าย ยิ่งคนที่เป็นฝ้าอยู่แล้ว จะยิ่งไปกระตุ้นให้เกิดฝ้ามากขึ้นด้วย

ใช้เครื่องสำอางหรือครีมที่ไม่มีคุณภาพ

เรียกได้ว่าหน้าพังกันเป็นแถบๆ กับครีม ไม่ก็เครื่องสำอางที่ไม่ได้คุณภาพ เพราะถูกหลอกด้วยราคาและการตลาดที่ล่อให้เราหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอันตราย เมื่อนำมาทาผิวก็เกิดอันตรายตามมามากมาย ซึ่งตอนแรกอาจจะใช้งานได้อย่างดี แต่เมื่อนานวันมันจะส่งผลเสียต่อผิวของเรา ทำให้เม็ดสีทำงานผิดปกติจนสะสมกลายเป็นฝ้ากระได้

รับประทานยาที่มีผลต่อฮอร์โมน

ฮอร์โมนนั้นถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อผิว โดยเฉพาะปัญหาฝ้าฮอร์โมน ที่มักเกิดกับหญิงหลังคลอดเพราะฮอร์โมนผันผวน หรือผู้หญิงที่รับประทานยาคุม ที่มีส่วนของฮอร์โมนเพศ กระตุ้นการเกิดสร้างเม็ดสีเมลานินที่ผิว ทำให้มีโอกาสเกิดฝ้าได้ง่าย หากต้องการรับประทานยา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง

สรุป

พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ส่งผลเสี่ยงให้เกิดปัญหาฝ้าได้ ยังมีปัจจัยและพฤติกรรมเสี่ยงอื่นที่ไม่ได้ยกขึ้นมาพูดถึงอีก เช่น พันธุกรรม อายุ ที่เป็นปัจจัยที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น เมื่อปัญหามาอยู่ตรงหน้าของเรา ก็ต้องรีบจัดการแก้ไขด้วย เลเซอร์ Q-switch เทคโนโลยีกำจัดฝ้ากระจุดด่างดำที่มาแรงที่สุด ปล่อยคลื่นแสงที่มีความเข้มและหนาแน่นสูงในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อลดการสร้างเม็ดสี สลายฝ้ากระให้หายไป และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว พร้อมทั้งช่วยปรับสภาพสีผิวให้ขาวเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น